10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวทัวน์จีนที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปเห็นให้ได้
สารบัญหน้า
ปัจจุบันเรามักจะเห็นว่าคนจีนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยทั้งกรุงเทพและภาคใต้ปีละหลายล้านคน จนอาจสงสัยว่าประเทศจีนไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีดีนอกจากกำแพงเมืองจีนหรือเปล่า? ในความจริงแล้วประเทศจีนเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีสถานที่ท่องที่ยวสวยงามและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากระดับโลก มีสถานที่ที่ถูกก่อตั้งให้เป็นมรดกหลายแห่ง สถานที่ท่องเที่ยวของจีนมีทั้งธรรมชาติและสถานที่ช้อปปิ้ง แต่ด้วยความที่ประเทศจีนเป็นประเทศใหญ่จึงทำให้การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างเมืองมีระยะไกลกว่าการเดินทางมากรุงเทพฯเสียอีก และยังมีปัจจัยของเรื่องค่าใช้จ่าย อาหารการกินซึ่งบ้านเราถือว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายในเรื่องของอาหารการกินและราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการท่องเที่ยวในประเทศจีนบางเมือง สถานที่ท่องเที่ยวในจีนมีทั้งที่เป็นมรดกโลกและเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก หากใครได้ลองเดินทางไปเที่ยวชมทัศนียภาพของประเทศจีนแล้วรับรองว่าจะเปลี่ยนความคิดอย่างแน่นอน ไปดูกันว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวจีนที่ไหนไม่ควรพลาดบ้าง
1. พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)
ชาวจีนเรียกกันว่าพระราชวังกู้กง (Forbidden City) ตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่ง หากใครที่เดินทางมาทัวน์จีนแล้วไม่ควรพลาดการเข้าชมที่นี่ เพราะพระราชวังต้องห้ามเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจนได้รับการขึ้นชื่อจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกและยังเป็นสถานที่สำคัญในเชิงประวัติศาสตร์และวรรณคดีอีกด้วย
พื้นที่บริเวณพระราชวังต้องห้ามประมาณ 720,000 ตารางเมตร มีประตูทางเข้า 4 ทิศล้อมรอบด้วยกำแพงสูง มีอาคารมากกว่า 900 หลัง ก่อสร้างโดยช่างฝีมือและคนงานกว่าล้านคน ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 14 ปี ภายในวังจะมีการแบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอกและชั้นใน บริเวณเขตชั้นในจะเป็นที่พำนักของฮ่องเต้ มีวิเสท 6,000 คน ไว้สำหรับประกอบพระกระยาหาร นางสนมกำนัล 9,000 นาง ขันที 70,000 คน คอยสร้างความสำราญให้องค์จักรพรรดิ มีสวนขนาดใหญ่ภายในสวนมีต้นไม้หายากและต้นไม้มงคลที่มีอายุมากกว่า 300 ปีขึ้นไป ส่วนพระราชฐานชั้นนอก ใช้เป็นที่ประกอบพิธี งานเลี้ยงต่าง ๆ และว่าราชการแผ่นดิน
ด้วยความที่พระราชวังต้องห้ามมีบริเวณกว้างขวางจนอาจจะต้องใช้เวลาเดินหลายชั่วโมงจึงแนะนำว่าควรสวมโรงเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่ใส่สบายมาจะดีที่สุด
2. อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ( Zhangjiajie National Forest Park)
เป็นสถานที่ที่มีวิวสวยงามระดับสิบ และเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของจีนตั้งแต่ปี 1992 บรรยากาศมีความเงียบสงบรายล้อมไปด้วยเขาหินทรายสูงเสียดฟ้ามากกว่า 3000 ยอด สะพานหินธรรมชาติน้ำตก ทะเลหมอกและป่าบริเวณรอบ ๆ โดยมีเนื่อที่กว่า 9500 ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่อู่หลิงหยวน (Wulingyuan Scenic Area) แบ่งออกเป็น 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ ลำแส้สีทอง (Gold Whip Stream), หยวนเจียเจี้ย (Yuanjiajie), หยางเจียเจี้ย (Yangjiejia) หลายคนอาจจะเคยได้ดูหนังเรื่อง อวตาล ของ เจมส์ คาเมรอน ว่ากันว่าทิวทัศน์และเทือกเขาภายในหนังได้แรงบันดาลใจมาจาก อุทยานจางเจียเจี้ย สำหรับการเดินทางขึ้นภูเขาเทียนจื่อซานสามารถขึ้นได้โดยการนั่งกระเช้า แล้วไปเปลี่ยนรถด้านบน ส่วนในตอนขาลงจะมีลิฟแก้วไป่หลงให้บริการ นอกจากนั้นยังมี สะพานเทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์สวยงามและยังเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์อีกหลาย ๆ เรื่อง
3. กำแพงเมืองจีน (The Great Wall)
ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจัดเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก โดยกำแพงเมืองจีนนั้นมีความยาวกว่า 21,196 กิโลเมตร ครอบคลุมกว่า 15 มณฑล สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน โดยจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์แรกของประวัติศาสตร์จีนได้ทรงมีพระบัญชาให้สร้างกำแพงนี้ขึ้นเพื่อป้องกันการบุกรุกของศัตรู ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้นประเกือบสองพันปีเลยทีเดียว วัสดุที่ใช้ในการสร้างมีหลากหลายในแต่ละช่วงตอนของกำแพงเมืองจีนนั้นจะแตกต่างกัน มั้งการใช้หินอ่อน หินแกรนิต ดินเผา โคลน แต่ละช่วงกำแพงจะมีด่านป้อมปราการตั้งอยู่แต่ละด่านนั้นมีความแตกต่างกันไป สำหรับด่านที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากที่สุดจะเป็น “ด่านปาต้าหลิง” มีรถราง กระเช้า คอยรับส่ง บริเวณข้างด่านมีร้านอาหารและบริการอินเตอร์เน็ตให้ใช้ กำแพงเมืองจีนแห่งนี้ใช้แรงงานในการสร้างมากกว่าล้านคนและมีแรงงานจำนวนไม่น้อยที่สละชีวิตในการสร้างกำแพงแห่งนี้ ศพของแรงงงานถูกฝังอยู่บริเวณรอบ ๆ กำแพงตลอดแนวโดยมีคำบอกเล่าว่าทุก ๆ หนึ่งฟุตความยาวของกำแพงคือหนึ่งชีวิต
4. เขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain)
เหมาะมากสำหรับคนที่รักธรรมชาติ เขาเทียนเหมินซานมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ประตูสวรรค์ ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจีย โดยมีความสูงถึง 1518 เมตรจากระดับน้ำทะเล ภูเขาแห่งนี้เป็นไฮไลท์ของจางเจียเจี้ย เมื่อมองจากบริเวณข้างล่างจะเหมือนกับเส้นทางไปสู่สวรรค์จริง ๆ ตรงกลางมีช่องขนาดใหญ่ที่เกิดจากการระเบิดของหุบเขาจนกลายเป็นรูโหว่ การเดินทางขึ้นไปสู่ประตูสวรรค์นั้นสามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่การเดินทางด้วยรถบัสผ่านเส้นทางถนน 99 โค้ง หรือ วิธีที่สองคือการขึ้นกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาวระยะทางมากถึง 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที ตัวกระเช้านั้นสามารถบรรจุได้ถึง 8 คน เคลื่อนที่ผ่านเส้นทางโดยจะมองเห็นทิวทัศของเมืองด้านล่าง พื้นที่ทำการเกษตร และจะไต่ระดับความสูงไปเรื่อย ๆ จนถึงส่วนที่เป็นเส้นทางลาดชัน ในส่วนนี้จะมองเห็นวิวด้านล่างและถนน 99 โค้งที่เป็นอีกหนึ่งเส้นทางหากเดินทางด้วยรถบัส
สำหรับเส้นทางเดินสู่ประตูสวรรค์ยังมีจุดที่ท้าทายโดยหากใครเดินไหวจะมีบันได 999 ขั้นทอดยาวจากช่องประตูสวรรค์ถึงจุดบริเวณด้านล่าง เขาเทียนเหมินซาน นับเป็นอีกสถานที่ทัวน์จีนที่มีความสวยงามน่าดูชมเป็นอย่างมาก
5. สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ (The Terracotta Warriors)
เป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ของจีน ตัวสุสานนั้นตั้งอยู่บริเวณเมืองซีอาน ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ.1974 เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดของจีนอีกที่หนึ่ง บริเวณด้านในสุสานแบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอกและชั้นใน มีรูปปั้นหุ่นเป็นข้าราชบริพาร กองกำลังทหารกว่า 8,000 รถม้ากว่า 130 ตัว ม้าศึกกว่า 670 ตัว สรรพอาวุธและสมบัติ บรรดาหุ่นปั้นรูปทหารแต่ละตัวจะมีหน้าตาและอิริยาบทจนถึงเครื่องแต่งกายแตกต่างกันซึ่งในยุคนั้นหุ่นปั้นดินเผายังคงมีสีสันเหมือนจริงตามเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ แต่เนื่องจากสถาพอากาศและระยะเวลาผ่านไปทำให้มองดูเหมือนรูปปั้นดินเผาธรรมดา จากประวัติความเป็นมา ด้วยความเชื่อในเรื่องชีวิตหลังความตายขององค์จักพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ จึงมีการบังคับเกณฑ์ไพร่พลกว่า 7 แสนคน สำหรับการก่อสร้างราชวังและสุสานจิ๋นซี เพื่อเตรียมไว้สำหรับการใช้ชีวิตหลังความตาย ว่ากันว่ามีพื้นที่บริเวณสุสานมากกว่า 57 ตารางกิโลเมตรและใช้เวลาในการสร้างนานถึง 38 ปี การขุดค้นพบสู่สานนั้นจนถึงยุคปัจจุบันได้ขุดเพียงบางส่วนเท่านั้นยังคงเหลือในส่วนของที่ฝังพระศพ ด้วยเหตุที่เทคโนโลยีในการขุดปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้เพราะอาจจะเกิดความเสียหายขึ้นได้
6. น้ำตกเต๋อเทียน (Detian Waterfall)
เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนับเป็นน้ำตกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
น้ำตกแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมทิวทัศน์เป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ในเขตปกครองต้าซิน (Daxin County) เมืองฉงจั่ว (Chongzuo City) อยู่ระหว่างชายแดน 2 ประเทศ จีนและเวียดนาม ความกว้างของน้ำตกมีขนาด 200 เมตรและสูงกว่า 70 เมตร หากใครมาเที่ยวฤดูใบไม้ผลิจะเห็นวิวสีแดงสะพรั่งของต้นนุ่น (Kapok Tree) ที่ล้อมรอบบริเวณน้ำตก หรือหากมาช่วงฤดูใบไม้ร่วงจากต้นไม้สีแดงก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสวยงามเป็นอย่างมาก เวลาที่น่าชมที่สุดจะเป็นช่วงเวลาตอนเช้าสายของน้ำตกจะกระทบหุบเขาเป็นละอองน้ำมองดูแล้วคล้ายกับหมอกยามเข้า และเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก แสงของพระอาทิตย์ก็จะกระทบกับหมอกเกิดเป็นสีสายรุ้งสวยงามเป็นอย่างมาก นอกจากความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแล้วสีของน้ำยังเป็นสีเขียวมรกตใส รายล้อมไปด้วยป่าอุดมสมบูรณ์บริเวณรอบ ๆ
7. ถ้ำมั่ยจีซัน (Maijishan Grottoes)
จัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางจิตวิญญาณ ที่มีความสูงถึง 150 เมตร ถ้ำมั่ยจีซัน ตั้งอยู่ในเมืองเทียนสุ่ย (Tianshui) มณฑลกานซู่ (Gansu) สร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์จากการขุด เจาะ ต่อเติม จุดที่ตั้งที่อยู่เหนือทะเลสาบ แม่น้ำ หุบเขา และป่าเขียวชอุ่ม ปัจจุบัน ถ้ำมั่ยจีซานได้อนุรักษ์พระพุทธรูปปั้น 194 องค์ มีพระพุทธรูปหินสลัก กว่า 7000 องค์และจิตกรรมฝาผนัง พระพุทธรูป พระสังขจาย พระสาวกและอื่น ๆ ด้วยความที่ ถ้ำมั่ยจีซาน มีบริเวณที่ตั้งล้อมรอบด้วยป่าจึงไม่ถูกกระทบจากภัยสงคราม ส่วนต่าง ๆ ของถ้ำได้รับการอนุรัษ์เป็นอย่างดี เป็นสถานที่สำคัญในการให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนา ความพิเศษของที่นี่อีกจุดหนึ่งคือดินที่นำมาปั้นบริเวณผนังและพระพุทธรูปยังคงสภาพเดิมได้โดยผ่านมามากกว่าดันปีมาแล้วจึงเป็นที่มาของการยกย่องให้เป็น พิพิธภัณฑ์ปั้นดินเผาแห่งเอเชียตะวันออก (Oriental Clay Sculpture Museum) เป็นอีกหนึ่งสถานที่สวยงามหากมาทัวน์จีนแล้วไม่ควรพลาด
8. เดอะบันด์ (The Bund)
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวจีนและบรรดานักท่องเที่ยว เป็นจุดที่เหมาะแก่การชมวิว มีทางเดินเลียบแม่น้ำหวงผู่ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของเมืองเซี่ยงไฮ้ มีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวส่วนมากจะชอบมาถ่ายรูปบริเวณนี้ เป็นบริเวณที่เห็นหอคอยไข่มุกตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน รอบๆ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปและร้านค้า ร้านอาหาร มีอาคารบ้านเรือนที่เก่าแก่มีอายุมากกว่าร้อยปีมาแล้ว ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม มีภัตตาคารหรูหรา สินค้าแบรนด์เนมมากมายให้เลือกเดินช้อปปิ้งกันอย่างเพลิดเพลินตั้งแต่กลางวันยันกลางคืน ที่เดอะบัน สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีใครที่อยากมีรูปหอไข่มุกสวย ๆ แนะนำให้มาถ่ายรูปในช่วงเวลากลางคืนรับรองว่าไม่ผิดหวัง
9. เทือกเขาหวงซาน (The Yellow Mountains)
ตั้งอยู่ในมณฑลอันฮุย (Anhui Province) ทางตะวันออกของจีนและยังเป็น 1 ใน 10 จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีน ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ และได้รับเลือกเป็นอุทยานทางธรณีวิทยาระดับโลก เราอาจจะเคยเห็นในหนังจีนบางเรื่องที่มีทิวทัศน์คล้ายกับทีเทือกเขาหวงซาน เพราะในภาพยนตร์บางเรื่องนั้นมีต้นแบบการทำกราฟฟิกมากจากที่นี่ จุดสนใจของที่นี่จะประกอบด้วย ทะเลหมอก หินรูปร่างประหลาดและบ่อน้ำพุร้อนใส โดยหวงซานนั้นมียอดเขาที่มีชื่อถึง 77 ยอด มีจุดชมความงามอยู่ที่ ยอดเขายู่ผิง อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,716 เมตร บนหน้าผามีต้นสน 3 ต้นที่มีชื่อเสียง ได้แก่ สนรับแขก สนรอแขกและสนส่งแขก มีอายุหลายร้อยปี จุดชมวิวอีกที่คือที่เรียกกันว่า ยอดดอกบัว (Lotus Peak) ตั้งอยู่ตอนกลางของเทือกเขาสูง 1,864 เมตรจากระดับน้ำทะเลและเป็นจุดสูงที่สุดของเขาหวงซาน บริเวณจุดนี้จะมีโซ่สำหรับแขวนกุญแจสำหรับคู่ที่พาแฟนมาคล้องกุญแจแสดงถึงความผูกหัวใจไว้ด้วยกัน เทือกเขาหวงซานเป็นสถานที่แนะนำสำหรับคนที่ชื่นชอบในธรรมชาติไม่ควรพลาด
10. อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติจางเย่ (Zhangye Danxia National Geological Park)
หลายคนรู้จักกันดีในชื่อของ “ภูเขาสายรุ้ง” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ร่วมเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเพราะความสวยงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองจางเย่ มีลักษณะเป็นหน้าผาสีแดงที่สูงชันประมาณ 200-300 เมตร สีเหล่านี้มาจากสีของหินทรายและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเมื่อ 24 ล้านปีก่อน เมื่อเวลาผ่านไปถูกลมและฝนกัดเซาะจนทำให้มีลวดลายเป็นเส้นสวยงาม เมื่อมีแสงแดดตกทอดลงมาบริเวณลวดลายประกอบกับพื้นที่ราบสีเขียวยิ่งทำให้ดูงดงามเป็นอย่างมากราวกับสีสันของรุ้งตามชื่อภูเขา สำหรับจุดชมวิวจะมีหลัก ๆ ด้วยกัน 2 จุดคือ บริเวณเขาหลากสี (Colorful Hill) และบริเวณหุบเขาน้ำแข็ง (Ice Valley) โดยจะมีรถพานำเที่ยว ใช้เวลาในการเข้าชมประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเองเนื่องจากเป็นเขตอนุรักษ์
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วหากใครที่ได้มาทัวน์จีนครั้งหนึ่งจะรู้ได้เลยว่าประเทศจีนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่ามหัศจรรย์อีกมากมาย หรือหากใครต้องการเดินช้อปปิ้งในเมืองก็มี เซี่ยงไฮ้ กวางโจวหรือปักกิ่ง ให้ได้เดินช้อปกันอย่างเพลิดเพลิน ส่วนในเรื่องของอาหารการกินควรเลือกร้านที่ดูแล้วใส่ใจในเรื่องความสะอาดและไม่กินอาหารแปลก ๆ โดยคนจีนส่วนมากจะชอบอาหารที่มีรสชาติจืดอย่างพวกผักต่าง ๆ และชอบริโภคผลไม้มากเป็นพิเศษ