10 อันดับสถานที่ทัวน์เกาหลีถ้าไม่ได้ไปถือว่ามาไม่ถึงเกาหลี

10 อันดับสถานที่ทัวน์เกาหลีถ้าไม่ได้ไปถือว่ามาไม่ถึงเกาหลี

ประเทศเกาหลีเป็นเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะคนไทยนิยมไปเที่ยวเกาหลีมากขึ้นทุก ๆ ปีส่วนหนึ่งมากจากอิทธิพลการส่งออกของอุตสาหกรรมการบันเทิง ตัวอย่างเช่น ซีรีย์ละครเกาหลี วัฒนธรรมการแต่งกาย ทำผมตามแบบดารานักร้อง ซึ่งเป็นค่านิยมของกลุ่มวัยรุ่นเจนใหม่ นอกจากนั้นเกาหลียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นใหม่อีกมากมายเรียกได้ว่าสามารถเที่ยวได้ทั้งประเทศ และเที่ยวได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูหนาวมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจกับการเล่นสกี มีการจัดการแข่งขันกีฬาสกีตามรีสอร์ทต่าง ๆ บางสถานที่ยังเป็นที่ถ่ายทำซีรีส์ชื่อดังหลายเรื่องหรือบางคนอาจจะชอบตามรอยละครย้อนยุคก็มีการใส่ชุดฮันบก เดินเที่ยวชมพระราชวังเคียงบกกุง นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแล้ว อาหารการกินของเกาหลีก็เป็นจุดเด่นอีกอย่าง ชาวเกาหลีให้ความสำคัญกับอาหารการกินไม่แพ้ประเทศไทยเรา หลายคนอาจรู้จักชื่อของกิมจิดีแต่ในความจริงแล้วยังมีอาหารอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากเช่น บิบมบับ ฮันจองซิก จิมดัก ฯลฯ สำหรับใครที่กำลังวางแพลนจะมาท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี

1. เมียงดง (Myeong-Dong)

แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของหนุ่มสาววัยรุ่น ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล เป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากอีกทั้งยังเป็นเมืองศูนย์กลางของเศรษกิจ บริเวณย่านช้อปปิ้งแห่งนี้ประกอบไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมาก มีห้างสรรพสินค้าลอตเต้(Lotte)บรรยากาศจะคล้าย ๆ กับเดินสยามบ้านเรา เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนม เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ร้านอาหาร ร้านค้าแผงลอย ที่เมียงดงนี้ยังมีสินค้าอีกชนิดที่ถูกอกถูกใจของบรรดาสาว ๆ ทั่วโลกนั่นก็คือเครื่องสำอางเกาหลี เพราะเป็นสถานที่ที่มีเครื่องสำอางแทบจะทุกแบรนด์ของเกาหลีอยู่ที่นี่ อาทิเช่น Etude House, Missha, Nature Republic, Migliore ฯลฯ สำหรับใครที่มาเดินละแวกนี้ในตอนเย็นจะเจอร้านค้าแผงลอยเปิดบริเวณกลางถนน มีอาหารพื้นเมืองของเกาหลีประเภทต่าง ๆ วางขาย และผู้คนมากมายมาเดินช้อปปิ้งรวมถึงคนไทยหลายคนชอบเดินกันในช่วงเวลานี้เพราะมีร้านขายของน่ารัก ๆ และร้านขายขนมให้เลือกชิมกันอย่างจุใจเลยทีเดียว การเดินทางมาที่นี่สามารถมาโดยใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วลงสถานี Myeong-dong 404 ทางออกที่ 6

เวลาเปิด-ปิด 10.00 – 23.00 น.

2. ล็อตเตเวิลด์ (Lotte World)

เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังของเกาหลี มีนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยที่มาเกาหลีเป็นต้องแวะมาที่นี่ เป็นสถานที่ที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีนักท่องเที่ยวมายังสวนสนุกล็อตเตเวิลด์นี้ปริมาณมากถึง 6 ล้านคนต่อปี ภายในสวนสนุกจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ โซนผจญภัย (Adventure) เป็นสวนสนุกที่อยู่โซนในร่ม ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็น “สวนสนุกในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” เน้นเป็นเครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็ก เช่น ม้าหมุนขนาดใหญ่ มีลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณใจกลาง มีร้านขายอาหารและขนมน่ารัก ๆ สำหรับคนที่หิว และโซนที่สองจะเป็น โซนเกาะแห่งเวทมนตร์ (Magic Island) เป็นโซนกลางแจ้งอยู่ติดริมทะเลสาบซกชอนโฮซู (Seokchonhosu Lake) ส่วนมากแล้วจะเป็นเครื่องเล่นของวัยรุ่น มีเครื่องเล่นหวาดเสียวสั่นประสาทสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย เช่น รถไฟเหาะ, Gyro Drop สูง 70 เมตร, เรือโจรสลัด และหลังจากเล่นเครื่องเล่นอย่างเต็มอิ่มแล้วก็จะมีขบวนพาเหรดและการแสดงโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย เป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดไม่ว่าจะมาคนเดียว มากับเพื่อนหรือพาครอบครัวมาที่นี่ก็มีความสนุกรอต้อนรับได้ทุกรูปแบบ

เวลาเปิด-ปิด: 09.30 – 22.00

ค่าบริการเข้าสวนสนุก: ผู้ใหญ่ 48,000 วอน / เด็กมัธยม 42,000 วอน / เด็กประถม 38,000 วอน / เด็กก่อนอนุบาล 12,000 วอน

3. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโคเอ็กซ์ โซล (COEX Aquarium)

เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซลภายในชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้า Coex Mall มีเนื้อที่กว่า 14,000 ตร.ม. จัดแสดงปลากว่า 4 หมื่นตัว การรับชมจะเป็นลักษณะการผจญภัยเป็นการเดินจาก เทือกเขาแอนเดียน (Andean mountains) ผ่านป่าอเมซอน แม่น้ำ ชายฝั่งทะเลและจบที่มหาสมุทร แต่ละตอนจะมีสัตว์ที่น่าสนใจให้ได้แวะชมกันตลอดทาง เหมาะแก่การพาเด็กมาทัศนศึกษา หลังรับชมปลาจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเสร็จแล้วสามารถเดินช้อปปิ้งหรือทานข้าวต่อภายในบริเวณห้างได้เลย การเดินทางที่สะดวกสุดสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Samseong ออกที่ทางออกประตู 5

เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 20:00

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 22,000 วอน / นักเรียน 19,000 วอน / เด็ก 4 ขวบขึ้นไป 16,000 วอน / ผู้สูงอายุ 16,500 วอน

4. เกาะนามิ (Namiseom Island)

เป็นจุดท่องเที่ยวที่อยู่ห่างจากกรุงโซลออกมาประมาณ 60 นาที เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โด่งดังมาจากการถ่ายละครซีรีย์ Winter Sonata หรือชื่อไทยว่า เพลงรักในสายลมหนาว มีจุดเด่นอยู่ที่รูปปั้นคู่พระเอกนางเอกยืนอยู่บริเวณที่เดียวกับในละคร เกาะนามิ ตั้งอยู่ที่เมืองชุนช็อน (Chuncheon-si) จังหวัดคังว็อน (Gangwon-do) มีเนื่อที่มากกว่า 270 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบ มีต้นเกาลัด ต้นแป๊ะก๊วยและต้นสน บรรยากาศบนเกาะเงียบสงบเหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคู่รักและนอนพักกางเต็นท์ นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานเนื่องจากเป็นสถานที่สวยงามทางธรรมชาติ มีบรรดาสัตว์เล็ก ๆ เช่น ห่าน หงส์ นกพันธุ์ต่าง ๆ อาศัยอยู่บริเวณเกาะ จุดสนใจที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปอีกที่หนึ่งคือบริเวณที่มีแนวต้นสนเรียงรายกันเป็นแนวยาว เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเกาะ ช่วงเวลาที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุดคือฤดูใบไม้ร่วง สีของต้นไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม สีแดงสลับกันอย่างสวยงาม นอกจากธรรมชาติแล้วที่นี่ยังมีร้านขายของฝาก ของที่ระลึก พิพิธภัณฑ์ ให้เดินเล่นชิล ๆ ได้อย่างไม่มีเบื่อ

ค่าเข้าชมเกาะนามิ: สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป 10000 วอน / ผู้พิการและผู้สูงอายุ (อายุ 70 ปีขึ้นไป) 8,000 วอน

5. พระราชวังคยองบก (Gyeongbokgung Palace)

หาใครที่ไปเที่ยวโซลแล้วที่นี่เป็นอีกสถานที่ยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1395 เพื่อเป็นพระราชวังหลักแห่งแรก ของราชวงศ์โชซอน (ค.ศ.1392 – ค.ศ.1910) ต่อมาได้มีการรุกรานของญี่ปุ่นในสงครามอิมจิน ทำให้พระราชวังได้รับความเสียหายอย่างหนักจนกระทั่งถูกบูรณะฟื้นฟูขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1867 ภายในพระราชวังจะมีอาหาร 500 กว่าหลังเพื่อใช้ในทางการเมือง เมื่อเข้ามาจะเห็นประตูด่านหน้าของพระราชวังเรียกว่า ควางฮวามุน (Gwangwhamun gate) เป็นศูนย์กลางของอาคารสำนักงานต่าง ๆ ในช่วยเป็นยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น ส่วนสำคัญของพระราชวังถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก มีอาคารหลักที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง ได้แก่ พระที่นั่งคึนจองจอน พลับพลาฮยังวอนจอ และพลับพลาคยองฮเวรู ที่นี่เป็นอีกสถานที่ที่มีความยิ่งใหญ่โดยมีพื้นที่มากถึง 4 แสนกว่าตารางเมตร นอกจากนั้นยังมี พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติของเกาหลี (National Palace Museum of Korea) ตั้งอยู่บริเวณพระราชวังให้ได้เข้าชมกันด้วย ข้างอาคารพิพิธภัณฑ์จะมีบ้านเรือนร้านค้าตกแต่งเหมือนบ้านโบราณให้ได้เยี่ยมชมถ่ายรูปกัน นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร คาเฟ่น่ารัก ๆ ตลอดเส้นทางเดิน ตั้งอยู่บริเวณทางออกด้านข้างของพระราชวังด้วย

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 3000 วอน / เด็ก 1500 วอน

เวลาเปิด-ปิด: 09.00 – 17.00 น.(ในแต่ละเดือนเวลาปิดจะต่างกันเล็กน้อย)

6. อุโมงค์ซากุระ คลองยอชวาชอน (Yeojwacheon Stream)

ในทุกเดือนเมษาของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระที่คลองแห่งนี้ มีการถ่ายทำซีรีย์เรื่อง Romence โดยใช้ฉากสถานที่นี้ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวผู้ตามรอยละครมากมายให้ความสนใจมาถ่ายรูปบริเวณจุดนี้ บางคนเรียกชื่อสะพานตามชื่อซีรีย์หนังว่า Ramance Bridge ตลอดแนวทางเดินจะมีต้นซากุระทอดยาวไปตามคลอง สามารถเดินได้ทั้งด้านบนสะพานและด้านล่างสะพานมีดอกเรปซีดซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กมีดอกสีเหลืองตลอดเส้นทางเดินบริเวณด้านล่าง เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความโรแมนติก หากใครมาทัวน์เกาหลีกับแฟนไม่ควรพลาดการเดินทางมาที่อุโมงซากุระแห่งนี้

7. อินซาดง (Insa-dong)

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ช้อปปิ้งเดินเล่น มีร้านขายอาหาร ของที่ระลึก ขนมกินเล่นอร่อย ๆ มากมายเปิดเรียงรายอยู่ที่บริเวณตรอกซอกซอย อินซาดงตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง มีศิลปะภาพวาดแบบดั้งเดิม และศิลปะแบบพื้นบ้านมากกว่า 100 แกลอรี่ให้ได้เลือกชมกัน แกลอรี่ที่มีชื่อเสียงได้แก่ Gana Art Gallery, Gana Art Center มีร้านกาแฟและโรงน้ำชาที่ตกแต่งร้านด้วยความสวยงามเหมาะสำหรับคนที่ชอบมาถ่ายรูปและชื่นชอบในรสชาติกาแฟแบบพื้นบ้าน อีกร้านที่เป็นที่นิยมของเด็กและมีคนจำนวนมากเข้าไปถ่ายรูปกันได้แก่ ร้านขนมอุนจิ มีรูปร่างเป็นเกลียวคล้ายคลึงกับอุนจิด้านในผสมไส้ถั่วแดงราคาอยู่ที่ 1000 วอน ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณตึก ซัมซีกิล (SSamziegil) สังเกตง่าย ๆ ว่ามีคนมุงถ่ายรูปอยู่จำนวนหนึ่ง ทุกวันเสาร์เวลา 14:00 -22:00 และวันอาทิตย์ 10:00 – 22:00 จะมีการปิดการจารจรให้จัดเป็นพื้นที่ตั้งบูธร้านค้า มีร้านขนม ร้านขายของชำร่วย ร้านดูหมอและโชว์การแสดงทางด้านวัฒนธรรมของชาวเกาหลีเป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาดแวะมาเที่ยว

8. เอเวอร์แลนด์ (Everland)

มาทัวเกาหลีแล้วที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ดินแดนมหัศจรรย์ เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่และดีที่สุดของเกาหลีใต้ มีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากกว่า 7 ล้านคนต่อปี ภายในสวนสนุกจะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ 5 โซนได้แก่ Global Fair, American Adventure, Zoo Topia, Magic Land และ European Adventure แต่ละโซนมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป เริ่มจากโซนแรก Global Fair เมื่อเข้ามาจะพบกับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนจุดนัดพบสำหรับนักท่องเที่ยว มีเคาน์เตอร์บริการรถเข็นให้ลูกค้ก่อนจะเข้าไปบริเวณสวนสนุก ร้านขายของที่ระลึก น่ารัก ๆ ให้ได้เลือกซื้อกันเป็นของฝาก ถัดมาจะเป็นโซน American Adventure เป็นโซนท่รวบรวมเครื่องเล่นต่าง ๆไว้เช่น T-Express, Double Rock Spin, Columbus Adventures โซนนี้จะมีทั้งเครื่องเล่นไฮไลท์ของสวนสนุกและร้านอาหารต่าง ๆ โซน โซน Magic Land เป็นโซนที่เหมาะสำหรับเด็กเล็กหรือมาเที่ยวกันเป็นครอบครัว มีการตกแต่งแนวแฟนตาซีและเหล่าตัวการ์ตูนในชุดมัสคอสคอยต้อนรับอยู่เป็นระยะ เครื่องเล่นบริเวณนี้จะเหมาะสำหรับเด็กเล็กมากกว่า ต่อมาเป็นโซน European Adventure เป็นสวนที่มีการสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศส เอาใจคนที่ชอบถ่ายรูป เหมาะสำหรับเดินเล่นพักผ่อน และสุดท้ายโซน Zootopia เป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี มีสัตว์มากกว่า 2,000 ตัว มีการชมการแสดงของเหล่าสัตว์น่ารัก ๆ ให้รับชมกันอย่างเพลิดเพลิน

ช่วงเวลาให้บริการ: ประมาณ 09:00-22:00 แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ช่วงเทศกาล

9. สวนสัตว์โซล (Seoul Zoo)

เป็นสวนสัตว์เก่าแก่แห่งแรกของประเทศเกาหลีใต้ มีพื้นที่มากกว่า 1500 ไร่ เป็นสถานที่สร้างขึ้นเพื่อการศึกษาทางธรรมชาติ และการพักผ่อนหย่อนใจ มีสัตว์ที่หากยากกว่า 360 ชนิด และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ กว่า 3,200 สิ่งจากทั่วโลกทั้งสัตว์บก สัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตว์เรื้อยคลาน แมลงต่าง ๆ ไปจนถึงถึงพืชพันธ์หายากในเกาหลี ในฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่น่าท่องเที่ยวที่สุดเพราะจะเห็นต้นไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง สีเหลือง มองดูแล้วสวยงามเป็นอย่างมาก เนื่องจากสวนสัตว์แห่งนี้มีบริเวณขนาดใหญ่มากการมารับชมควรเผื่อเวลาไว้ทั้งวัน

การรับชมสวนสัตว์สามารถรับชมได้ 3 วิธี

• Shuttle Train ค่าโดยสารคนล่ะ 1,000 วอน ต่อจุดท่องเที่ยว
• Sky Lift เคเบิ้ลคาร์สำหรับเที่ยวชมสวนสัตว์จากมุมสูง
• การเดินเท้า

ช่วงเวลาเปิดให้บริการ: 09.00 – 19.00 น.

ผู้ใหญ่ 5,000 วอน, วัยรุ่น 3,000 วอน, เด็ก 2,000 วอน

10. พิพิธภัณฑ์ภาพลวงตา กรุงโซล (Trick Eye Museum)

เป็นอาร์ตแกลเลอรี่ภาพวาดที่มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า “trompe l’oeil”  มีศิลปะภาพ 3 มิติที่มีลูกเล่นจำนวนมากซึ่งผู้เข้าชมจะเพลิดเพลินไปกับการโพสท่าทางและอารมณ์ต่าง ๆ ให้เข้ากับภาพ ภายในจะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ โดยแต่ละห้องจะมีตัวอย่างการโพสท่าทางกับมุมในการถ่ายรูปชี้แจงไว้เหมาะสำหรับมาถ่ายรูปกับเพื่อนฝูงหรือมากันเป็นครอบครัว บริเวณห้องโถงนิทรรศการตกแต่งภายในด้วยสไตล์กรีซซานโตรินี่ เดินถัดจากบริเวณ Trick Eye Museum จะเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ มีร้านอาหาร ร้านขายของฝากที่ระลึก ร้านกาแฟ มากมายตั้งอยู่บริเวณถนนสายนี้ สำหรับใครที่แวะมาที่นี่ในช่วงเดือนกรกฏาคมจะมีการเปิดโซน Ice Museum ให้ได้ถ่ายรูปสามมิติกันในทิวทัศน์ของยุคน้ำแข็งด้วย

เวลาเปิด-ปิด: 09:00 – 21:00

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 15,000 วอน / กลุ่ม (มากกว่า 20 คน) 11,000 วอน เด็ก(อายุต่ำกว่า 18 ปี) 12,000 วอน

ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทัวน์เกาหลีอีกมากมายที่น่าสนใจ สำหรับคนที่มาเที่ยวที่ประเทศเกาหลีกันอย่างสนุกสนานแล้วอย่าลืมคำนึงถึงเรื่องของวัฒนธรรมและมารยาทของประเทศเค้าด้วย เช่น การแยกขยะทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง มารยาทการใช้ตะเกียบและช้อนยาว ประเทศเกาหลีจะไม่นิยมใช้ช้อนส้อมเหมือนบ้านเรา และมารยาทในการทิปซึ่งในเกาหลีจะไม่นิยมให้ทิปกันในทุก ๆ สถานที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรมหรือที่พัก เพราะมีการบวกค่าบริการไว้เรียบร้อยแล้ว